หน้าแรก > รวมบทความ > ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย

ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งระหว่างประเทศอย่างไร

ความสำคัญของซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ต่อการขนส่งระหว่างประเทศ

ความสำคัญของซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์

หน้าที่ของซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ คือการใช้ยึดและปิดล็อคประตูตู้คอนเทนเนอร์เมื่อการบรรทุกสินค้า เพื่อป้องกันปัญหาการสูญหายของสินค้าที่เกิดจากการลักขโมย เพราะบ่อยครั้งที่บริษัทขนส่งหลายที่เจอบรรจุภัณฑ์หรือคอนเทนเนอร์ถูกเปิดออกก่อน ที่จะส่งไปถึงมือของลูกค้า เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและสูญหายของสินค้าที่มีมูลค่าสูง การใช้ซีลล็อคตู้สินค้าจึงมีความสำคัญมากกับการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศหรือระหว่างประเทศ

เพราะการค้าขายที่เพิ่มขึ้นมากมายทั่วโลก การเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างจุดการค้าไปยังจังหวัดหรือประเทศจุดหมายปลายทางที่เป็นผู้รับจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกๆ ปี จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าก็จะต้องเจอกับปัญหาที่หลากหลายกันไป และหนึ่งในปัญหาสำคัญก็คือสินค้าถูกสับเปลี่ยนปลอมแปลงและสูญหาย ทำให้มีข้อกำหนดของท่าเรือหรือหน่วยงานกำกับและดูแลของรัฐบาลหลายประเทศ ได้ชี้แจงต่อผู้นำเข้าและผู้ส่งออกสินค้า ที่มีการบรรจุในตู้สินค้า FCL (Full Container Load) และ LCL (Less than Container Load) ทั้งหมดจะต้องถูกปิดผนึกอย่างมิดชิดในระหว่างการขนส่ง เพื่อความปลอดภัยของสินค้าในระหว่างการเดินทางจนกว่าจะถึงจุดขนถ่ายสุดท้าย นั่นเอง

 

วิธีการใช้ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งระหว่างประเทศ

  1. เลือกซีลล็อคที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน : เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและความปลอดภัยของสินค้าจากการสูญหายระหว่างการขนส่ง ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของซีลล็อคตามวัสดุให้เลือกใช้ได้ 2 ประเภทคือ พลาสติกและโลหะ แต่ถ้าจะแบ่งตามรูปแบบที่แตกต่างกันก็มีประเภทของซีลล็อคให้เลือกใช้ได้ถึง 3 แบบ ดังนี้

    • ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ แบบน็อตหรือกลอน (The Bolt Seal) : ซีลล็อคประเภทนี้ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุที่เป็นโลหะพร้อมปลอกพลาสติก ซึ่งจะมีแข็งแรงมากกว่าซีลล็อคที่เป็นพลาสติก หากจะตัดซีลล็อคออกจะต้องใช้เครื่องตัดน็อตเลยทีเดียว ฉะนั้นซีลล็อคประเภทนี้ให้ความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูงของคุณ และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น จึงมีการนำระบบ RFID (Radio Frequency Identification) มีรหัสเฉพาะที่สามารถสแกนผ่านเครื่องอ่านเข้ามาใช้ในซีลล็อคประเภทนี้ เรียกว่า (E-Seal) ซึ่งเป็นซีลล็อคที่ช่วยเร่งกระบวนการศุลกากรให้เร็วขึ้น เนื่องจากสามารถตรวจสอบได้โดยอัตโนมัติ นั่นเอง

    • ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ แบบสายเคเบิ้ล (The Cable Seal) : ซีลล็อคประเภทนี้จะมีสายเหล็กและระบบล็อคในตัว มีความทนทานสูง, มีความยืดหยุ่นและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าซีลประเภทอื่นๆ สามารถตัดออกด้วยกรรไกรตัดเหล็กเท่านั้น จึงได้รับความนิยมมากที่สุดในอุตสาหกรรมการขนส่งเป็นอย่างมาก

    • ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ แบบแถบโลหะ (The Metal Strip Seal) : รูปลักษณ์ภายนอกจะคล้ายกับซีลล็อคแบบพลาสติก แต่ต่างกันที่ทำจากโลหะทั้งหมด มีลูกบอลที่เป็นระบบล็อคทำจากโลหะที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและความเสียหายสูง เหมาะสำหรับการขนส่งทางเรือที่ต้องเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งความร้อน ความชื้นและน้ำทะเล เป็นต้น

  2. ตรวจสอบความเรียบร้อยของสิ่งของหรือสินค้าในคอนเทนเนอร์ให้เรียบร้อยก่อนปิดผนึก : เพื่อสร้างความมั่นใจการตรวจสอบสิ่งของหรือสินค้าที่อยู่ในคอนเทนเนอร์ว่ามีร่องรอยของความเสียหายหรือการปลอมแปลงหรือไม่ รวมถึงการสำรวจด้วยว่าคอนเทนเนอร์อยู่สภาพดีไม่มีชำรุดเสียหาย แล้วจึงค่อยปิดผนึกประตูและล็อคด้วยซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ ให้เรียบร้อยอีกชั้นหนึ่ง

  3. การเตรียมซีลล็อคให้เรียบร้อยถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิต : หากซีลล็อคของคุณจำเป็นต้องประกอบก่อนใช้งาน ก็ให้คุณปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต เช่น หากเป็น Bolt Seal หรือซีลล็อคที่เป็นแบบน็อตหรือกลอน ก็ต้องสอดตัวเกลียวผ่านกลไกการล็อค เป็นต้น

  4. วางซีลล็อคในตำแหน่งที่ถูกต้องและยึดให้แน่น : คือการวางซีลล็อคในตำแหน่งเหนือจุดที่ประตูตู้คอนเทนเนอร์มาบรรจบกันหรือจุดปิดผนึกอื่นๆ จากนั้นก็ให้ใช้เครื่องมือหรือกลไกที่มากับซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อยึดซีลให้แน่น หากเป็นรุ่นที่มีการสกรีนหมายเลขข้อมูลของสินค้าหรือโลโก้บริษัท ก็ให้เก็บบันทึกหมายเลขและข้อมูลไว้ เพื่อการติดตามและตรวจสอบความสมบูรณ์ของการขนส่งให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

  5. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของซีลล็อคอีกครั้ง : หลังจากปิดผนึกตู้คอนเทนเนอร์แล้วให้ตรวจสอบซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบล็อคทำงานอย่างแน่นหนาแล้ว

 

ปรึกษาการใช้งานซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์สำหรับระบบโลจิสติกส์ ติดต่อได้ที่

 

 

เคล็ดลับในการรักษาความปลอดภัยตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างการขนส่ง

  • ใช้ซีลล็อคคุณภาพสูง การล็อคอย่างแน่นหนาจะช่วยป้องกันสินค้าสูญหายที่ดีที่สุด การเลือกซื้อซีลล็อคคุณภาพสูงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจของคุณในการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์จะมีมาตรฐาน ISO 17712 ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกสำหรับการขนส่งสินค้าจากทั่วโลก นอกจากนั้นก็มีข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม ดังนี้

    • ซีลคอนเทนเนอร์ควรเป็นอุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียว ตราประทับแต่ละอันจะต้องไม่ซ้ำกัน คัดลอกยาก และมีข้อมูลพื้นฐานกำกับไว้ เช่น โลโก้ของบริษัท และหมายเลขประจำตัวที่ไม่ซ้ำกัน
    • ซีลสลักต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 18 มม.
    • ความต้านทานแรงดึงของซีลภาชนะต้องมากกว่า 1,000 กิโลกรัม
    • ความแข็งแรงในการตัดของซีลภาชนะต้องมากกว่า 340 กก.
    • คุณต้องมีตราประทับบนซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์อย่างน้อยหนึ่งอัน ต่อตู้ขนส่งสินค้าหนึ่งตู้จึงจะสามารถผ่านศุลกากรได้

  • สกรีนหมายเลขรหัสของข้อมูลสินค้าบนซีลล็อค เพื่อง่ายต่อการติดตามสถานะและช่วยให้คุณตรวจสอบว่าสินค้าของคุณยังคงอยู่ในสภาพดีไม่สูญหายระหว่างการขนส่ง หรือการเลือกใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อติดตามตำแหน่งและสถานะของคอนเทนเนอร์แบบเรียลไทม์อย่าง ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์แบบ E-Seal ที่มีระบบ RFID ที่สามารถใส่และอ่านรหัสของสินค้าของคุณบนซีลล็อคได้

  • เลือกบริษัทขนส่งที่เชื่อถือได้ การขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงๆ ควรเลือกบริษัทขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือและมีระบบความปลอดภัยของสินค้าที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการส่งมอบสินค้าตรงเวลาและไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าของคุณจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย

 

ทั้งหมดนี้คือความสำคัญของ ซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีต่อการขนส่งทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าท่าเรือหลายประเทศนั้น มีข้อบังคับให้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งก่อนเข้าและออกศุลกากร จะต้องมีการปิดผนึกตู้สินค้าให้มิดชิดก่อนจะผ่านด่านขอท่าเรือไปได้ และหากคุณกำลังมองหาซีลล็อคคุณภาพดีที่ได้มาตรฐาน ISO 17712 บริษัท บีแพ็ค แมททีเรียล เราจำหน่ายซีลล็อคตู้คอนเทนเนอร์ ที่ได้มาตรฐานนี้ เพื่อความปลอดภัยและการจัดเก็บสินค้าระหว่างการขนส่งระหว่าประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น เรายังรับสกรีนหมายเลข บริการสกรีนโลโก้ ข้อความ ชื่อบริษัทบนซีลล็อคด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย คมชัด ทนทาน ใช้งานอย่างยาวนานได้อีกด้วย