ความสำคัญของตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์กับการแข่งขันการส่งออกและการเติบโตของตลาดข้าวไทย
ตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่ง
คำที่นิยามความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทยที่ว่า ‘ในน้ำมีปลา…ในนามีข้าว’ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีความผูกพันกับการปลูกข้าว มาช้านาน เพราะนอกจากที่ในประเทศไทยจะผลูกข้าวไว้บริโภคเองภายในครัวเรือนและภายในประเทศเองแล้ว “ข้าว” ยังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทยอีกด้วย โดยมีพื้นที่ในการปลูกข้าวมากที่สุด (คิดเป็น 46.1% ของพื้นที่เกษตรทั้งหมดของประเทศและครอบคลุมครัวเรือนถึง 4.9 ล้านครัวเรือน (คิดเป็น 60.5% ของจำนวนครัวเรือนภาคเกษตรทั้งหมด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากรัฐบาลมาโดยตลอด รวมถึงมีนโยบายช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านราคา (Price policy) อาทิ การประกันราคาข้าว การรับจำนำข้าว และโครงการช่วยเหลืออื่นๆ เช่น โครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว เป็นต้น
ขอบคุณภาพจาก : www.krungsri.com
ข้อมูลจาก krungsri research ที่วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมข้าว ปี 2565-2567 ว่าผลผลิตข้าวของไทยมีทิศทางเพิ่มขึ้น คาดว่าจะอยู่ที่ 29.9 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 19.4 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้น 4.4% จากปี 2563 โดยมีปริมาณส่งออกข้าวของไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีการปรับราคาข้าวที่ลดลงทำให้แข่งขันกับประเทศคู่ค้าได้ดีขึ้น และความต้องการข้าวจากต่างประเทศจะทยอยฟื้นตัว ทำให้การส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ฉะนั้น หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่าง “ตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์” จึงมีความสำคัญในอุตสาหกรรมการส่งออกข้าวได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นยังมีข้อมูลจากนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ที่ออกมาเปิดเผยว่า ปริมาณการส่งออกข้าวในช่วง 11 เดือนของปี 2565 (มกราคม-พฤศจิกายน 2565) มีปริมาณ 6,907,761 ตัน เพิ่มขึ้น 26.8% คิดเป็นมูลค่า 123,511.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.2% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ส่งออกปริมาณ 5,445,810 ตัน มูลค่า 95,591.7 ล้านบาท นับเป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะที่อินเดียยังครองแชมป์อันดับ1 ที่ 18.25 ตัน ซึ่งตัวแปรสำคัญของการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงเหลือเฉลี่ย 38 บาท และในปี 2566 นี้ ตั้งเป้าหมายร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยทั้งปีไว้ที่ 7.5 ล้านตัน
นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวให้เป็นไปตามเป้า ตัวอย่างเช่น การจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ (Thailand Rice Convention 2023), การจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเยือนประเทศคู่ค้าสำคัญต่างๆ ทั้ง จีน, เวียดนาม, เยอรมนี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และออสเตรเลีย รวมถึงการจัดประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ เป็นต้น ที่สำคัญคือกระทรวงพาณิชย์เตรียมตัวที่จะนำคณะเอกชนไปเปิดตลาดใหม่ในตะวันออกกลาง อย่างประเทศอิหร่าน เพื่อเพิ่มอันตราการส่งออกข้าวไทยให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในปัจจุบันการส่งออกข้าวไทยนั้น มีประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน, ฮ่องกง, แคนาดา, สิงคโปร์, ออสเตรเลียและอเมริกา
คู่แข่งสำคัญของไทยในอุตสหกรรมการส่งออกข้าวคือใครบ้าง?
- อันดับหนึ่งของโลกในการส่งออกข้าวอยู่ที่ 18.25 ล้านตัน/ปี คือ ประเทศอินเดีย
- อันดับที่ 2 คือไทยส่งออกข้าวปีละ 6.9 ล้านตัน/ปี
- อันดับ3 คือเวียดนาม ที่ส่งออกได้ 6.67 ล้านตัน/ปี
- อันดับ4 คือปากีสถานส่งออกได้ 3.74 ล้านตัน/ปี
- อันดับ 5 คือสหรัฐส่งออก1.99ล้านตัน/ปีโดยมีตลาดสำคัญได้แก่ อิรัก แอฟริกาใต้ จีน สหรัฐฯ และประเทศเบนิน
การดำเนินงานการขนส่งเพื่อการส่งออกข้าวไทยที่ดีมีอะไรบ้าง?
- สามารถช่วยลดต้นทุนในการส่งออกข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ : นับเป็นเป้าหมายที่สำคัญของการจัดการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งทุกกิจกรรม เพราะ ผู้ประกอบการมักจะตั้งเป้าหมายเป็นอันดับแรกว่าเมื่อมีการจัดการการขนส่งที่ดี จะต้องช่วยลดต้นทุนของธุรกิจลงได้ อย่างเช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง, ค่าบำรุงรักษารถบรรทุก หรือค่าแรงงาน ฯลฯ
- สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สูงขึ้นเรื่อยๆ : อย่างเช่น การมีจำนวนคนหรือจำนวนรถบรรทุก คอนเทนเนอร์เท่าเดิมแต่แต่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้มากขึ้น
- สามารถส่งสินค้าได้อย่างปลอดภัยจนถึงมือลูกค้า : สิ่งนี้นับเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่คู่ค้าและยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้ข้าวที่เป็นสินค้าที่ต้องการการดูแลที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ทั้งเรื่องที่ต้องระวังเรื่องความชื้นและการตกกระแทกระหว่างการขนส่ง อย่างเรื่องของความชื้นนั้นอาจจะแก้ไขปัญหาได้จากการเลือกกระสอบบรรจุข้าวที่มีคุณสมบัติกันน้ำและความชื้นได้ แต่เรื่องของการการตกกระแทกระหว่างการขนส่ง อาจจะต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษของพนักงานขนส่งและอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการกระแทกหรือตกหล่น อย่าง “ตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์”
ที่ บีแพ็ค แมททีเรียล เรามีตาข่ายที่รองรับงานที่มีน้ำหนักสูงพิเศษ อย่างการส่งออกข้าวหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บรรจุกระสอบต่างๆ อย่าง Container Net size 3 mm. เป็นเชือกไนล่อนสีขาวขนาด 7 มิลลิเมตร และ 5 มิลลิเมตร มีช่องตาตาข่ายกว้าง 5 X 5 นิ้ว พร้อมเชือกผูก 4 มุม สามารถใช้ได้กับตู้ไฮคิวบ์ขนาด 2.40 X 2.70 เมตร
“ตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์” ของบีแพ็ค แมททีเรียล นั้นมีนื้อตาข่ายมีความแข็ง เพราะมีเส้นด้ายที่พันเกรียวกันอย่างแน่นหนาจนทำให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ มีความตึงขึ้นรูปสวย และเชือกไนล่อนสีขาวจะมีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อพยุงตัวตาข่ายให้สามารถรับน้ำหนักสินค้าได้ดียิ่งขึ้น คุณจึงสามารถมั่นใจได้เลยว่าสินค้าของคุณ ที่ไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ จำนวนหลายตัน จะไม่หลุดหล่นหรือเกิดการกระแทกระหว่างขนส่งจนสินค้าได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน
หัวใจของการส่งออกข้าวให้ได้ราคาดีนั้น ไม่ใช่แค่คุณภาพของข้าวในประเทศแต่หมายรวมถึงการบรรจุและการขนส่งที่ดี ที่ไม่ทำให้ข้าวที่จะส่งออกเสียหายได้ ยิ่งเรากำลังอยู่ท่ามกลางการแข่งขันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลายประเทศที่เราได้กล่าวไปแล้ว การส่งมอบข้าวไทยที่ดีมีคุณภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันคุณภาพการส่งออกข้าวของไทยอย่างแท้จริง ซึ่งการขนส่งข้าวออกไปยังต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่จะใช้การขนส่งระบบคอนเทนเนอร์ เพื่อบรรจุข้าวในตู้คอนเทนเนอร์ แล้าทำการขนส่งไปยังรถบรรทุกภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศโดยรถไฟหรือเครื่องบิน ซึ่งแน่นอนว่ามีการขนย้ายสับเปลี่ยนบรรทุกระหว่างรถบรรทุก รถไฟ เรือหรือเครื่องบิน หากไม่มีกระสอบหรือ “ตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์” ที่แข็งแรงทนทานเพื่อป้องกันสินค้าให้อยู่ในสภาพที่ดีระหว่างการขนย้ายและขนส่ง จึงถือเป็นตัวช่วยที่ดีเพื่อให้การส่งออกข้าวของคุณ เพื่อรองรับการกับแนวโน้มที่ดีของการส่งออกข้าวในปี 2566 นี้ตามที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมากคาดการณ์ได้ นั่นเอง
หากคุณกำลังมองหา ตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์ สำหรับความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าของคุณ ไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างขนส่ง บีแพ็ค แมททีเรียล เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายตาข่ายคลุมสินค้าที่มีมาตรฐานและไว้ใจได้ เหมาะสำหรับงานที่ใช้ป้องกันสินค้าทุกประเภท เพื่อให้ทุกการขนส่งของลูกค้ามีประสิทธิภาพและปลอดภัยอย่างถึงที่สุด นั่นเอง
สนใจสินค้า ตาข่ายคลุมสินค้าหรือตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์
ติดต่อเรา
บริษัท บีแพ็ค แมททีเรียล จำกัด
https://www.bpackmaterial.com/
โทร: 098-546-1563
อีเมล: bpackmaterial@gmail.com
Facebook: ตาข่ายปิดท้ายตู้คอนเทนเนอร์ สินค้าคุณภาพ ราคาถูก by Bpack